ของขวัญต้องห้าม ของที่อาจพังทลายความสัมพันธ์ของคุณได้

การให้ของขวัญเป็นการแสดงออกถึงความปรารถนาดีและความห่วงใย แต่ของขวัญบางชิ้นอาจไม่เหมาะสม เพราะมันเป็นของขวัญต้องห้ามที่จะส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างผู้ให้และผู้รับ เพราะฉะนั้นก่อนตัดสินใจซื้อของขวัญให้ใคร เราจึงควรรู้ก่อนว่ามีอะไรบ้างที่ไม่นิยมมอบให้กันเป็นของขวัญ ถึงจะเป็นแค่สิ่งที่ผู้คนเชื่อ แต่ทำไว้ก่อนก็ไม่ได้เสียหายอะไร จะมีอะไรบ้างที่เราไม่ควรมอบเป็นของขวัญให้กับผู้อื่น ไปดูกันเลย

ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่

เปิดรายชื่อของขวัญต้องห้าม มอบให้ใคร ระวังความสัมพันธ์ร้าวฉาน

สร้อยคอ เข็มขัด และเนคไท

ความจริงแล้วพวกนี้ไม่ถือเป็นของขวัญต้องห้าม แต่มันแฝงไปด้วยความหมายลึกซึ้งอยู่ หากคุณไม่ได้ตั้งใจจะสานความสัมพันธ์ระยะยาวกับใคร รู้สึกว่าอีกฝ่ายเป็นแค่เพื่อน เป็นพี่น้องกัน เราขอแนะนำว่าอย่ามอบของขวัญพวกนี้ให้กับพวกเขาโดยเด็ดขาด เพราะมันจะสื่อถึงความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและใกล้ชิดกันเกินกว่าเพื่อน เนื่องจากมันเป็นของขวัญที่นิยมมอบให้คนรัก ที่อาจทำให้คุณถูกเข้าใจผิดได้

กระเป๋าสตางค์

หลายคนอาจมองว่า การมอบกระเป๋าสตางค์เป็นของขวัญให้กับคนที่เรารัก จะช่วยดึงดูดโชคลาภการเงินให้เข้าสู่กระเป๋า แต่ความจริงแล้วมันคือของขวัญต้องห้ามที่จะส่งผลเสียต่อตัวเราเอง ทำให้เงินทองไหลออกจากชีวิตเราไปจนหมด โชคลาภที่เคยมีก็หล่นหายไป แต่ถ้าคุณมอบให้กับคนในครอบครัวหรือคู่รักที่ใช้เงินร่วมกันก็ถือว่าไม่เป็นไร เพราะเงินไม่ได้ไปไหนอยู่แล้ว

ผ้าเช็ดหน้า

ปกติแล้วผ้าเช็ดหน้ามักจะถูกใช้เวลาที่เราร้องไห้ เวลาที่เราหยิบยื่นผ้าเช็ดหน้าให้กับใคร ดวงชะตาของคนที่รับผ้าเช็ดหน้าไป ก็จะมีโอกาสได้ใช้มันซับน้ำตาในอนาคตนั่นเอง มันจึงเปรียบเสมือนกับการตัดขาดความสัมพันธ์ ในขณะเดียวกันคนรับก็คงรู้สึกเหมือนกับถูกสาปแช่ง ให้ต้องเสียใจในอนาคตยังไงอย่างนั้น

ตุ๊กตา

ใครที่อยากมอบตุ๊กตาเป็นของขวัญให้กับเด็ก ๆ รู้หรือไม่ว่าในบางวัฒนธรรมเชื่อว่า มันคือของขวัญต้องห้าม เนื่องจากตุ๊กตาเป็นตัวแทนของมนุษย์ตัวเล็ก ๆ มันจะดึงดูดความชั่วร้ายและวิญญาณไม่ดีเข้ามาสู่ตัวตุ๊กตา ทำให้ผู้ที่รับของไปต้องเผชิญกับความชั่วร้ายและความตกอับ

ร่ม

อุปกรณ์ที่เราใช้กันเปียกเวลาฝนตก กลับกลายเป็นสัญลักษณ์ของการเลิกราเสียอย่างนั้น ตามความเชื่อในประเทศจีน คำว่าร่มมีอีกหนึ่งความหมายว่า การเลิกรา การให้ร่มเป็นของขวัญกับคนที่คุณรัก จึงเป็นการบอกเป็นนัยว่า คุณต้องการจะเลิกรากับเขานั่นเอง

หมวก

ใครจะไปคิดว่าหมวกถือเป็นของขวัญต้องห้ามด้วยเช่นกัน แต่ในฝั่งประเทศจีนเวลาที่ผู้สูงอายุเสียชีวิต ลูกหลานก็จะสวมหมวกเพื่อไว้ทุกข์ให้กับผู้ล่วงลับ การนำเอาหมวกไปมอบเป็นของขวัญให้กับคนที่ถือเรื่องนี้ จึงถูกมองว่ามันเป็นการสาปแช่งให้เกิดความสูญเสียในครอบครัว

ของที่มีสีขาวหรือสีดำ

สีทั้งสองเป็นสัญลักษณ์ของความโศกเศร้า หากคุณให้ของขวัญคนอื่นที่เป็นสีขาวหรือสีดำ รวมถึงการใช้กระดาษห่อของขวัญทั้งสองสีดังกล่าว จะดูไม่เหมาะสมกับบรรยากาศแห่งความรื่นเริงสักเท่าไหร่ แถมยังเป็นการบอกผู้รับว่า จะต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่ต้องโศกเศร้าในอนาคตอันใกล้อีกด้วย

ของมีคม

ของมีคมอย่างมีดหรือกรรไกร เป็นหนึ่งในของขวัญต้องห้ามที่ไม่ควรมอบให้ใครโดยเด็ดขาด เพราะมันเป็นสัญลักษณ์ของการตัดความสัมพันธ์ให้ขาดออกจากกันอย่างสิ้นเชิง ไม่เพียงเท่านั้นยังจัดเป็นของขวัญที่ค่อนข้างอันตรายอีกด้วย

รองเท้า

คนไทยเชื่อว่า การให้รองเท้าเปรียบเสมือนกับการจากลา เนื่องจากเรามักสวมใส่รองเท้าก่อนที่จะเดินจากไปอยู่เสมอ สำหรับในฝั่งของประเทศจีน รองเท้าเป็นคำพ้องเสียงกับคำว่า โชคร้าย มันจึงไม่ต่างอะไรกับการสาปแช่งให้ผู้รับของขวัญ ต้องเผชิญหน้ากับความโชคร้ายและจากชีวิตเราไปตลอดกาล

นาฬิกา

สำหรับคนไทยมองว่า นาฬิกาก็เปรียบเสมือนกับการนับถอยหลัง เราจึงไม่นิยมมอบให้คนอื่นเป็นของขวัญ เพราะมันก็เหมือนกับการบอกอีกฝ่ายว่า เวลาในชีวิตเหลือน้อยลงทุกที ในประเทศจีนประโยคที่ว่า ให้ของขวัญเป็นนาฬิกา ดันไปพ้องเสียงกับคำว่า ไปร่วมงานศพ ทำให้เป็นสิ่งของที่ไม่เป็นมงคลนั่นเอง

ทำอย่างไรให้ของขวัญต้องห้ามไม่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ 

สำหรับใครที่มอบของขวัญต้องห้ามให้กับคนที่รักไปแล้ว และได้รู้ความหมายของสิ่งของที่เรามองให้ในภายหลังแล้วรู้สึกไม่สบายใจ เราสามารถแก้เคล็ดได้ด้วยการขอเงินจำนวน 1 บาท จากผู้รับของขวัญของเรา ซึ่งจะเหมือนว่า คนที่รับของขวัญไปซื้อของชิ้นนั้นจากเราไปด้วยเงินจำนวน 1 บาท ไม่ใช่การให้ของขวัญนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ของขวัญต้องห้ามก็เป็นเพียงแค่สิ่งที่ผู้คนในสังคมเชื่อเท่านั้น หากเราไม่ได้เชื่อก็เป็นวิจารณญาณส่วนบุคคลของเรา ของขวัญที่ดีสุดท้ายคือของขวัญที่ผู้รับสามารถนำเอาไปใช้ประโยชน์ต่อได้ เป็นของขวัญที่ผู้รับอยากได้ เพราะฉะนั้น มันจึงไม่เกี่ยวหรอกว่าของที่เราจะมอบให้กับผู้อื่นเป็นมงคลหรือเปล่า

แต่มันขึ้นอยู่กับว่า ของชิ้นนั้นจะสร้างความสุขให้กับผู้รับได้มากแค่ไหน เพราะสำหรับเด็กยากไร้ก็คงอยากได้ตุ๊กตาเอาไว้เป็นของเล่น คนที่ไม่มีเงินซื้อเสื้อผ้าใส่ก็คงอยากได้ รองเท้า นาฬิกา หมวก หรือผ้าเช็ดหน้าเช่นกัน สิ่งที่เหมาะสมที่สุดจึงเป็นการมอบของขวัญตามความเหมาะสม จะช่วยให้เกิดความสบายใจทั้งผู้ให้และผู้รับ

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ Good Horo