ในศาสนาพุทธมีพิธีกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพิธีมงคลหรืออัปมงคล ในแต่ละพิธีก็จะมีความเชื่อแตกต่างกันออกไป แต่พิธีที่ผู้คนปฏิบัติตามความเชื่ออย่างเคร่งครัดมากที่สุดคงจะหนีไม่พ้นงานศพ รู้หรือไม่ว่ามีข้อห้ามงานศพมากมายที่คุณไม่ควรทำ เพราะมันจะทำให้สิ่งไม่ดีติดตัวเรากลับบ้านไปด้วย จะมีอะไรบ้างที่คุณควรระวังบ้าง ไปดูพร้อมกันได้เลย
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ระวัง 7 ข้อห้ามงานศพ รู้ไว้ ป้องกันความอัปมงคล
ห้ามไปร่วมงานศพหากเจ็บป่วยหรือไม่สบาย
ในช่วงที่คุณกำลังเจ็บป่วย ไม่สบาย เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายของคุณกำลังอ่อนแอ การเดินทางไปร่วมงานศพจึงเปรียบเสมือนกับการพาเอาร่างกายที่อ่อนแอและมีช่องว่างให้วิญญาณสามารถเข้ามาทำร้ายหรือสิงสู่ได้ง่าย ไปอยู่ในจุดที่เสี่ยงมากขึ้น คนโบราณจึงไม่นิยมให้คนที่ป่วยหรือไม่สบายเดินทางไปงานศพนั่นเอง
ห้ามไปงานศพหากมีบาดแผลหรือได้รับบาดเจ็บ
หากคุณกำลังมีบาดแผลหรือได้รับบาดเจ็บอยู่แล้วเดินทางไปงานศพ สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับคุณจะใกล้เคียงกับเวลาเจ็บป่วยแล้วไปงานศพนั่นก็คือ ร่างกายที่อ่อนแอและมีโอกาสถูกทำร้ายหรือสิงสู่โดยวิญญาณร้ายได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีความเชื่ออีกด้วยว่า การไปงานศพทั้งที่เป็นแผลจะทำให้หายช้าหรืออาจจะถึงขั้นแผลเน่าเปื่อยได้เลยทีเดียว หากคุณมีความจำเป็นต้องเดินทางไปร่วมงานศพจริง ๆ ให้พกไม้มีหนามอย่างกิ่งเฟื่องฟ้าหรือกิ่งมะกรูดติดกระเป๋าไปด้วย
ห้ามมองลอดใต้หว่างขาระหว่างอยู่ในงานศพ
เป็นความเชื่อที่คนไทยหลายคนรู้จักกันดี นั่นก็คือ หากเรามองลอดใต้หว่างขาจะได้เห็นโลกวิญญาณ ได้เห็นในสิ่งที่ไม่ควรเห็น นอกเหนือจากนี้มันยังเป็นกิริยาที่ไม่สุภาพและไม่มีกาลเทศะอีกด้วย และเชื่อว่าคุณคงไม่อยากเห็นอะไรที่คุณไม่ควรเห็นอย่างแน่นอน
ห้ามส่งต่อดอกไม้จันทน์ให้กับผู้อื่น
เวลาที่มีการแจกดอกไม้จันทน์ ห้ามนำเอาดอกไม้ในมือตัวเองส่งต่อให้กับผู้อื่นโดยเด็ด เพราะดอกไม้จันทน์คือดอกไม้ที่เราใช้แสดงความอาลัยต่อผู้ล่วงลับในงานศพ การส่งต่อดอกไม้จันทน์ให้กับผู้อื่นจึงเปรียบเสมือนกับการส่งต่อความตาย เป็นการแช่งชักหักกระดูกที่ไม่ควรทำ
พกกิ่งมะนาวติดกระเป๋าไปร่วมงานศพด้วย
คนโบราณมักนิยมพกกิ่งมะนาวที่มีใบติดอยู่จำนวน 7 ใบ ใส่กระเป๋าติดตัวเวลาต้องเดินทางไปร่วมงานศพ เนื่องจากเชื่อว่ามะนาวเป็นต้นไม้ที่มีพุทธคุณ สามารถล้างอาถรรพ์และป้องกันสิ่งชั่วร้ายที่เรามองไม่เห็นได้ หรือในฝั่งของประเทศจีนเชื่อว่า หากเราพกกิ่งใบทับทิมติดตัวขณะไปร่วมงานศพ จะสามารถป้องกันสิ่งชั่วร้ายไม่ให้สามารถติดตามเรากลับมาที่บ้านได้นั่นเอง
สตรีมีครรภ์ให้ติดเข็มกลัดไว้ที่ชุดคลุมท้องหรือเสื้อที่สวมใส่
โดยปกติแล้วคนโบราณไม่นิยมให้สตรีมีครรภ์เดินทางไปร่วมงานอัปมงคลสักเท่าไหร่ แต่หากมีความจำเป็นต้องไปร่วมแสดงความอาลัยต่อผู้ล่วงลับ ก็มักให้สตรีมีครรภ์นำเอาเข็มกลัดติดไว้บริเวณหน้าท้อง เป็นการป้องกันไม่ให้วิญญาณสามารถเข้ามาสิงสู่หรือทำร้ายเด็กที่อยู่ในท้องได้นั่นเอง
ล้างหน้าด้วยน้ำแช่ใบทับทิมหลังกลับจากงานศพ
หลังกลับมาจากร่วมงานศพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้คุณนำเอาน้ำแช่ใบทับทิมมาชำระล้างร่างกาย ล้างหน้า ล้างเท้าก่อนเข้าบ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งไม่ดีติดตามเราเข้ามาในบ้านด้วย หรือในภาคเหนือจะนิยมนำเอาน้ำส้มป่อยวางไว้บริเวณทางออกของวัด เพื่อให้ผู้ร่วมงานนำเอาน้ำมาล้างมือ เท้า และใบหน้าหลังออกจากวัดแล้วนั่นเอง
ข้อห้ามงานศพ ความเชื่อหรือเพียงกุศโลบาย
หากสังเกตดูให้ดีจะพบว่า ข้อห้ามที่เราไม่ควรทำในงานศพส่วนใหญ่แล้ว มักเป็นข้อห้ามที่ฟังดูมีเหตุผล แม้ว่าผลที่ตามมาอาจจะดูเหนือจินตนาการไปหน่อยก็ตาม แต่ถ้าเราวิเคราะห์ให้ดีจะพบว่า ข้อห้ามทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นกุศโลบายทั้งสิ้น
ไม่ว่าจะเป็นการไม่ไปร่วมงานศพหากเจ็บป่วยหรือไม่สบาย เพราะมันอาจจะทำให้คนอื่นได้รับเชื้อได้ เนื่องจากเป็นงานในสถานที่ปิดที่เต็มไปด้วยผู้คน รวมถึงการมีบาดแผลแล้วไปงานศพ ก็อาจทำให้คุณติดเชื้อได้เช่นกัน หรือจะเป็นข้อห้ามเรื่องการห้ามเรามองลอดใต้หว่างขา เพราะถ้าทำจริง ๆ หากเป็นผู้ใหญ่ก็คงเป็นการเสียมารยาท หากเป็นเด็กก็คงเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้
เพราะฉะนั้น ข้อห้ามเหล่านี้จึงไม่ใช่เป็นเพียงแค่ความเชื่องมงาย แต่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ถูกคิดเป็นกุศโลบายให้ทุกคนปฏิบัติตามเพื่อความปลอดภัย และเพิ่มความระมัดระวังในการไปร่วมงานมากขึ้น ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นเพียงแค่ความเชื่อส่วนบุคคลเท่านั้น จะปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติก็ได้แล้วแต่ความสะดวกใจของแต่ละคน
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ Good Horo
