บ้านคือวิมานในฝัน และจะดีขึ้นไปอีกหากมันสามารถส่งเสริมชีวิตของเราได้ เพราะมันคือสถานที่ที่เราจะอยู่ไปทั้งชีวิต ฮวงจุ้ยบ้านจึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะมันช่วยเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับเราได้ ที่สำคัญหลักการดังกล่าวยังเกี่ยวข้องและมีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์อีกด้วย สำหรับใครที่สนใจ เราจะพาทุกคนไปดูกันว่าการแต่งบ้านตามหลักฮวงจุ้ยควรเป็นอย่างไร ไปติดตามกันได้เลย
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ทางลัดอ่านทความ
ทำความรู้จักกับฮวงจุ้ยบ้าน ตำราที่รวมเอาสถาปัตยกรรม ธรรมชาติและความเชื่อไว้ด้วยกัน
ฮวงจุ้ยบ้าน เป็นความเชื่อตามหลักฮวงจุ้ยที่มีที่มาจากประเทศจีน เป็นความเชื่อที่ได้รับอิทธิพลมาจากแนวคิดปรัชญาในลัทธิเต๋า ดังนั้นมันจึงมีความเกี่ยวข้องกับพลังงานหรือลมปราณ ซึ่งเป็นพลังงานที่อยู่รอบตัวเรา ผสมผสานเข้ากับหลักสถาปัตยกรรม จัดวางสิ่งของภายในบ้าน ให้อยู่ในตำแหน่งที่มีความเหมาะสม ให้พลังงานภายในบ้านของเราเกิดความสมดุล
เพราะหากพลังหยินและหยางมีความสมดุล ก็จะช่วยเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับผู้ที่อยู่อาศัย ดูแลเรื่องสุขภาพร่างกาย แถมยังสามารถดึงดูดโชคลาภได้อีกด้วย ที่สำคัญคือ ฮวงจุ้ยบ้าน เป็นสิ่งที่สามารถอธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์ได้อีกด้วย
เพราะฮวงจุ้ยเป็นหลักการที่พูดถึงเรื่องทิศทางของแสง น้ำ และลม เช่นเดียวกับหลักสถาปัตยกรรมในยุคปัจจุบัน ที่ยังคงต้องศึกษาเกี่ยวกับทิศทางต่าง ๆ เช่นเดียวกัน ลักษณะของฮวงจุ้ยบ้านส่วนใหญ่จึงมักจะสอดคล้องกับหลักสถาปัตยกรรม
ยกเว้นเสียแต่ว่า หากเราต้องการเสริมดวงเป็นพิเศษ ก็อาจจะต้องมีสร้างบางสิ่งบางอย่างที่แตกต่างไปจากหลักสถาปัตยกรรมบ้าง ถึงอย่างนั้น โดยส่วนใหญ่แล้วหลักการเหล่านี้มักสอดคล้องไปตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ มันจึงไม่ใช่เรื่องงมงายทั้งหมดแต่อย่างใด
ฮวงจุ้ยบ้านที่ดีควรเป็นอย่างไร เปิดลักษณะแต่ละห้องตามตำราฮวงจุ้ย
ฮวงจุ้ยบ้านไม่ได้ดูเฉพาะองค์รวมของบ้านหรือที่ดินเท่านั้น แต่มันยังรวมไปถึงการตกแต่งภายใน การวางห้อง ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีความสอดคล้องกับฮวงจุ้ยบ้านทั้งสิ้น หากเราทำตรงตามหลักเป๊ะ ๆ ก็จะช่วยทำให้บ้านของเรากลายเป็นบ้านมงคล ที่สามารถเพิ่มโชคให้กับผู้อยู่อาศัยได้ แต่ละห้องควรเป็นอย่างไร ไปดูกันเลย
1.ห้องนอน
ตามหลักฮวงจุ้ยบ้าน ตำแหน่งห้องนอนที่ดีที่สุดก็คือบริเวณด้านหลังหรือกลางบ้าน เพราะมันเป็นจุดที่ได้รวบรวมพลังงานบวกเอาไว้ ไม่มีกิจกรรมหรือเสียงดังรบกวน เตียงนอนไม่ควรวางขวางทางเข้าออก ปลายเตียงก็ไม่ควรหันชนกับประตูพอดี เพราะตอนพักผ่อนจะได้รับพลังงานรบกวนแบบเต็ม ๆ ห้องนอนถือเป็นธาตุดิน สิ่งที่ไม่ควรมีคือ ต้นไม้ เพราะมันจะทำให้ความอุดมสมบูรณ์หายไป และไม่ควรมีของที่เป็นน้ำอย่างเช่น รูปถ่ายหรือน้ำพุ เพราะมันจะไปขัดขวางการไหลเวียนของพลังงานและการทำมาค้าขาย
2.ห้องครัว
ตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับห้องครัวตามหลักฮวงจุ้ยบ้านก็คือ บริเวณด้านหลังบ้าน ที่เมื่อคนมองเข้ามาในบ้านแล้วไม่สามารถมองทะลุเข้าไปเห็นครัวได้ เพราะมันถือว่าเป็นแหล่งข้าวแหล่งน้ำของเรา ถ้าเห็นได้ง่ายก็จะสูญเสียความอุดมสมบูรณ์นั้นไป ถ้าเป็นบ้าน 2 ชั้น ห้องครัวก็ไม่ควรตรงกับตำแหน่งห้องนอนที่อยู่ชั้นบน ตำแหน่งของเตาไฟ ควรวางเอาไว้ให้ห่างจากอ่างน้ำหรือก๊อกน้ำ เพราะพลังงานของธาตุน้ำและธาตุไฟจะเกิดความขัดแย้งกันจนทำให้ในบ้านไม่สงบสุข และยังไม่ควรอยู่ติดกับห้องน้ำอีกด้วย
3.ห้องน้ำ
ตำแหน่งที่เหมาะสมก็คือ บริเวณด้านหลัง ไม่ควรตั้งเอาไว้กลางบ้านเพราะมันเป็นจุดที่รวบรวมพลังงานบวกเอาไว้ ไม่ควรอยู่ใกล้ห้องครัวหรือใต้บันไดเพราะจะก่อให้เกิดความขัดแย้งตามมา ไม่ควรวางประตูให้ตรงกับทางเข้าห้องอื่นภายในบ้าน เพราะจะเป็นการส่งพลังงานลบเข้าสู่ห้องนั้น ๆ
4.ห้องรับแขก
ถือเป็นหน้าตาของบ้านเรา โดยส่วนใหญ่มักวางเอาไว้บริเวณหน้าบ้านที่เข้ามาแล้วก็จะเจอได้ในทันที หากเป็นห้องพักที่เป็นห้องสตูดิโอ ห้องนั่งเล่นรวมกับห้องนอน ตามหลักฮวงจุ้ยบ้านเราขอแนะนำว่าให้หาฉากกั้นมาแบ่งให้ทั้ง 2 ส่วนแยกออกจากกัน จะช่วยให้เราสามารถนอนหลับพักผ่อนได้อย่างสนิทใจมากขึ้นกว่าเดิม โซฟาที่ใช้ควรมีพนักสูงเพราะมันจะช่วยส่งเสริมให้เรามีที่พักพิงเวลายากลำบาก การตกแต่งควรเน้นพลังงานหยางนั่นก็คือการเพิ่มความอบอุ่นและความสบายใจ เน้นใช้สีโทนร้อนในการตกแต่งก็จะช่วยเพิ่มความผ่อนคลายได้มากขึ้นกว่าเดิม
ฮวงจุ้ยบ้านมือสอง สิ่งที่ต้องวิเคราะห์ให้ดีก่อนซื้อ
สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากซื้อบ้านมือสอง ฮวงจุ้ยบ้านก็ถือว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเช่นเดียวกัน เพราะเราคงไม่อยากซื้อบ้านมาเพื่อทุบแล้วสร้างใหม่ ให้ตรงตามหลักฮวงจุ้ยบ้านอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นงบประมาณคงบานปลายหลายแสน สิ่งที่เราจะต้องพิจารณาก่อนตกลงซื้อบ้าน เพื่อให้ได้บ้านตามหลักฮวงจุ้ย ประกอบไปด้วย
1.รูปทรงตัวบ้าน
ลักษณะของบ้านที่ดีตามหลักฮวงจุ้ยบ้านควรเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส เนื่องจากศาสตร์ดังกล่าวใช้หลักการ 8 ทิศเพื่อดูว่าพลังงานภายในบ้านไหลเวียนอย่างไร รูปทรงสี่เหลี่ยมสามารถแบ่งออกได้เป็น 8 ส่วนพอดิบพอดี การจัดบ้านให้เป็นไปตามอย่างที่ควรจะเป็นจึงสามารถทำได้ง่าย ไม่แนะนำให้เลือกซื้อบ้านที่มีรูปทรงประหลาดอย่างเช่น ทรงสามเหลี่ยม สี่เหลี่ยมคางหมู ตัว L หรือโค้งเป็นตัว C
2.ความสูงต่ำของพื้นที่
ความสูงต่ำของพื้นที่บ้านจะส่งผลกระทบต่อเราโดยตรง ไม่ใช่แค่เรื่องดวงเท่านั้น หากบ้านของเราต่ำเกินไปก็อาจจะเกิดน้ำท่วมได้ หากบ้านสูงเกินไปก็จะรบกวนเพื่อนบ้านเช่นกัน ตามหลักฮวงจุ้ยบ้านแล้ว หากบ้านเราอยู่ในพื้นที่ต่ำ จะเป็นการดึงดูดสิ่งชั่วร้ายมากมายเข้ามาสู่ตัวบ้านของเรา
3.ทิศทางของห้องแต่ละห้อง
เราต้องดูว่าห้องแต่ละห้องที่ถูกจัดวางไว้ตามเดิมนั้นตั้งอยู่ในทิศมงคลหรือไม่ อย่างเช่น ห้องนอนไม่ควรหันไปทางทิศตะวันตก ห้องครัวควรตั้งอยู่ในทิศที่สามารถโดนแสงแดดตอนกลางวันได้ เพื่อป้องกันความชื้นและช่วยให้แสงแดดฆ่าเชื้อแบคทีเรียอันจะก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา
4.ที่ตั้งของตัวบ้าน
ที่ตั้งที่ดีควรเป็นจุดที่มีแม่น้ำไหลผ่านด้านหน้าและมีภูเขาข้างหลัง หากด้านหลังไม่มีภูเขาจะใช้เป็นตึกสูงก็ได้เช่นกัน ที่สำคัญก็คือไม่ควรเป็นทางสามแพร่ง เนื่องจากมันไม่เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยเป็นอย่างมาก จะมีพลังงานมากมายพุ่งเข้ามาในบ้านของเราจนก่อให้เกิดความไม่สงบและความวุ่นวาย สำหรับใครที่ชื่นชอบบ้านที่ตั้งอยู่บนทางสามแพร่งจริง ๆ และอยากแก้เคล็ดด้วยหลักฮวงจุ้ยบ้าน ขอแนะนำให้ติดกระจกนูนหรือกระจกแปดเหลี่ยมไว้หน้าบ้าน สร้างรั้วบ้านให้สูงหน่อย และเลื่อนตำแหน่งประตูบ้านไม่ให้ตรงกับทางสามแพร่งก็เป็นอันเรียบร้อย
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ Good Horo